ตำรวจจับมือกต.ตร. ให้ความรู้ปชช. สภ.คลองหลวง ครองแชมป์คดีโกงออนไลน์
เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ที่ อบต.คลองสาม จังหวัดปทุมธานี นางทุเรียน ปุ่นพิทักษ์ รอง นายกอบต.คลองสาม เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเครือข่ายอาสาพัฒนาชุมชน โดยมี พ.ต.ท.ยศวัฒน์ นิติรัฐพัฒนคุณ สว.(สอบสวน)สภ.คลองหลวง ฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ เป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับคดีโกงออนไลน์ ปัญหาสังคมออนไลน์และกลโกง รู้เท่าทันสังคมออนไลน์ กลโกงมิจฉาชีพ ใช้หลอกลวงเหยื่อบนสังคมออนไลน์ วิธีป้องกันภัยจากกลโกงจากสังคมออนไลน์ มีผู้เข้ารวมออบรมประกอบด้วย ประชาชน และผู้นำชุมชนในพื้นที่ตำบลคลองสามกว่า 80 คนร่วมเข้ารับฟัง
พ.ต.ท.ยศวัฒน์ กล่าวว่าสืบเนื่องจากปัจจุบันสถิติโกงออนไลน์พุ่งทั่วประเทศกว่า 400,000 คดี สภ.คลองหลวง มีคดีโกงออนไลน์มากที่สุดในประเทศรวม 7,000 คดี จากสถิติการรับแจ้งความออนไลน์คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ผ่านมาพบว่ารูปแบบคดีที่มีจำนวนการแจ้งความมากที่สุดอันดับ 1 คือการหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ ปัจจุบันที่ สภ.คลองหลวง รับเรื่องร้องเรียนหรือแจ้งความคดีโกงออนไลน์รวมกว่า 7,000 เคสเป็นเคสที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ทุกวันมีการกระทำผิดกับประชาชนมีผู้เสียหายจำนวนมากในพื้นที่ทั้งคนที่มาทำงานในพื้นที่ ผู้ที่พักอาศัย รวมถึงกลุ่มนักศึกษา พ่อค้าประชาชนทั่วไป ทั้งเรื่องการซื้อของผ่อนออนไลน์การหลอกให้ทำงาน หลอกให้กู้เงิน ล้วนเป็นการหลอกให้เชื่อในสิ่งนั้นว่ามีอยู่จริง สุดท้ายเสียทรัพย์สิน เสียข้อมูลส่วนตัว บางครั้งถูกหลอกข้อมูลส่วนตัวไปทำบัญชีม้า หากประชาชนไม่มีความรู้ความเข้าใจหรือความระมัดระวังในเรื่องของมิจฉาชีพออนไลน์ ก็จะถูกหลอกและตกเป็นเหยื่อจึงอยากจะฝากเตือนพี่น้องประชาชนและผู้พักอาศัย รวมถึงผู้ที่จะไปสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้กับบุคคลดังกล่าวทราบว่ามีมิจฉาชีพที่จ้องจะก่อเหตุ จะหลอกลวงพวกท่านอยู่ตลอดเวลาตราบใดที่ไม่รู้ ไม่เข้าใจและขาดความระมัดระวังอาจจะทำให้ถูกหลอกและสูญเสียทรัพย์สิน
นายยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ ประธาน กต.ตร.สภ.คลองหลวง กล่าวว่าเนื่องจากในเขตของอำเภอคลองหลวงในความรับผิดชอบของ สภ.คลองหลวง นั้นมีการแจ้งความคดีถูกหลอกลวงทางออนไลน์เดือนหนึ่งประมาณ 8,000 คดีซึ่งเป็นยอดสูงสุดของประเทศแต่เนื่องจากมีประชากรพักอาศัยอยู่เยอะและประชากรแฝงหลายแสนคน ตนและคณะ กต.ตร สภ.คลองหลวง จึงร่วมกันสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ป้องกันเหตุในหลายช่องทาง เช่นการอบรมให้ความรู้การทำโปสเตอร์ติดและแจกประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่อาจจะตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้บอกเลขบัญชีหรือเลขบัตรประชาชนหรือบุคคลในบ้าน โดยการเชิญประธานหมู่บ้านประธานชุมชนให้มาช่วยกันออกให้ความรู้กับประชาชนพร้อมทั้งสืบหาข้อมูลหากจุดไหนหลอกลวงเยอะจากสถิติการรับแจ้งความก็จะลงไปแก้ไขประชาสัมพันธ์ให้ความรู้จุดนั้นเป็นการด่วน
เครดิต:ข่าวมติชนออนไลน์
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_4448410





